เลี้ยงลูกด้วยหน้าจอ

ปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือ และสื่อออนไลน์ต่างๆ มากมายนั้น เด็กๆ สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเก่า จึงทำให้เด็กๆ เกินการติดจอมากกว่า ซึ่งอาจส่งผลต่อพฤติกรรมของพวกเค้าโดยที่พ่อแม่หลายๆ ท่านไม่รู้ตัว วันนี้เราจึงอยากพาผู้ปกครองทุกๆ ท่านไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ทำไมไม่ควรให้เด็กๆ อยู่หน้าจอมากเกินไปกันครับ จะส่งผลอย่างไรต่อเด็กๆ บ้างนั้นเราไปชมกันเล้ยย!!!

ทำไมจึงไม่ควรให้เด็กๆ อยู่หน้าจอนานเกินไป

การใช้สื่อผ่านจอในการเลี้ยงเด็กเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูเลย โดยเฉพาะเด็กๆ ที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี จะส่งผลต่การส่งเสริมพัฒนาการเด็กที่จะทำให้แย่ลง ไม่ว่าจะเป็นการพูด ฟัง อ่านหรือเขียน ซึ่งจะทำให้พวกเค้าพูดได้เพียงบางคำ จำสิ่งที่ไม่ควรจำ พัฒนาการช้ากว่าเด็กทั่วๆ ไป แถมสมาธิสั้นมากๆ และก้าวร้าวได้อีกด้วยคครับ

แล้วเราจะใช้สื่อช่วยเลี้ยงอย่างไรให้เหมาะสม

ข้อแนะนำในการใช้สื่อกับเด็กเล็กอย่างเหมาะสม คือ เด็กอายุแรกเกิด – 2 ปี ต้องหลีกเลี่ยงการอยู่หน้าจอทุกชนิด เด็กอายุ 2 – 5 ปี ใช้หน้าจอกับพ่อแม่ ด้วยสื่อคุณภาพไม่เกินวันละ 1 ชั่วโมง นอกจากนี้จะต้องปิดหน้าจอ และให้เด็กได้อยู่กับพ่อแม่เพื่อทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกัน จะเป็นการดีมี่สุดครับ

ผลเสียที่จะเกิดขึ้นเมื่อเลี้ยงลูกด้วยหน้าจอ

  • เด็กอาจมีปัญหาด้านพัฒนาการทางภาษา ลูกอาจจะพูดช้า เพราะการดูหน้าจอมักเป็นการดูภาพเคลื่อนไหวที่เคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียว
  • ส่งผลเสียทางด้านสายตา จะทำให้ตาของลูกแห้ง ตามมาด้วยผลเสียทางด้านพฤติกรรม จะทำให้ลูกก้าวร้าว มีการต่อต้าน มีปัญหาเรื่องสมาธิสั้น และมีผลเสียต่อการนอน เด็กที่ดูหน้าจอนานๆ จะทำให้หลับยากขึ้นเพราะได้รับผลกระทบจากแสงสีฟ้า เวลาและคุณภาพการนอนก็จะลดลง ส่งผลต่อภาวะอารมณ์และการจดจำ เป็นต้น

แนวทางการส่งเสริมพัฒนาการสำหรับเด็กๆ ที่ดี

  • การอ่านเพื่อเสริมสร้างจิตนาการและความรู้ เสริมทักษะการอ่านให้ลูกง่ายๆด้วยการอ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่วัยเด็ก ลูกอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณเล่า แต่จะรู้สึกสนุกและมีส่วนร่วมกับเสียงหรือท่าทางต่างๆของคุณ และภาพประกอบในหนังสือหรือนิทานนั้น ซึ่งสิ่งที่ควรทำคือ ให้ลูกมีส่วนร่วมในการเลือกหนังสือหรือนิทาน หนังสือนิทานแบบป๊อบอัพหรือแบบที่มีพื้นผิวให้สัมผัส สามารถเรียกความสนใจจากลูกได้
  • ใช้เสียงดนตรีช่วยเสริมสร้างจิตนาการลัฒนาการด้านต่างๆ การร้องเพลงหรือเล่นดนตรีให้ลูกฟังส่งผลดีต่อพัฒนาการทางสมองของลูก โดยเฉพาะเพลงที่มีจังหวะสม่ำเสมอ
  • หากิจกรรมหรือการละเล่นทำร่วมกับลูกๆ  ซึ่งการเล่น คือการทำงาน คือความสนุก นั่นคือสิ่งที่ลูกเรียนรู้ กิจกรรมและการเล่นช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ให้กับลูกได้ ลองใช้อุปกรณ์ที่เน้นด้านกราฟฟิค เช่น การทำวาดรูปเล่นตามจิตนาการหรือทำการ์ดสีสันต่างๆ เพื่อดึงดูดความสนใจและเป็นการฝึกทักษะการเอาใจใส่ไปในตัว และอย่าลืมอธิบายสีและรูปภาพต่างๆ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ไปด้วย

จริงหรือไม่ว่าการจ้องหน้าจอนานๆ หรือเล่นโทรศัพท์ในที่มืด เด็กๆ จะสายตาเสียไวกว่าเดิม

การจ้องหน้าจอติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือจ้องหน้าจอในที่แสงน้อย จะส่งผลให้เกิดอาการปวดตาจากการใช้กล้ามเนื้อตาที่มากเกินไป และอาจนำไปสู่อาการสายตาสั้นถาวรเลยหล่ะครับ ดังนั้นแล้ว ควรที่จะหลีกเลี่ยงการใช้สายตาในที่มืดกันเอาไว้นะครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ ทำไมไม่ควรให้เด็กๆ อยู่หน้าจอมากเกินไปที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความข้างต้นนี้ หวังว่าจะชอบและเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนกันนะครับ