หากว่ากันด้วยเรื่องของ การเตรียมตัวมีเจ้าตัวน้อย นั้น เรียกได้ว่ามีหลากหลายอย่างที่ต้องทำกันเลยก็ว่าได้ครับ ในบทความนี้เราจะขอมาแนะนำสิ่งพื้นฐานที่ต้องเตรียมตัวก่อนจะคิดมีเจ้าตัวน้อย เพื่อความพร้อมที่ดีที่สุดและเหมาะสมกันครับ จะต้องทำอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูกันดีกว่า!!

การเตรียมพร้อมก่อนมีลูก

การเตรียมตัวก่อนคิดที่จะมีเจ้าตัวน้อยนั้น มีหลายสิ่งมากมายที่ต้องทั้งเตรียมและยอมเสียสละไป เราจะกล่าวออกมาเป็นข้อๆ ที่สำคัญให้ทุกๆ ท่านได้คิดตามกันครับ

  • ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น การมีลูกย่อมหมายถึงครอบครัวจะต้องมีภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องถามตัวเองด้วยว่า หากเรามีลูกในวัยนี้ วัยที่ลูกเติบโตขึ้น เราจะหาเงินเลี้ยงตัวเองและเก็บเงินให้ลูกได้อย่างไร มากน้อยเพียงใด ซึ่งการจัดสรรเงินทองอย่างรอบคอบและตัดทอนรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปก็จะช่วยให้วางแผนค่าใช้จ่ายของครอบครัวได้ดีขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงลูกจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5-25 ของรายได้ครอบครัว
  • รักและเข้าใจกันมากพอแล้วหรือยัง ? การมีเวลาอยู่ด้วยกัน มีความเข้าใจกันดีพอ และพร้อมที่จะมีลูกด้วยกันเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการมีลูกในขณะที่ยังไม่สามารถปรับตัวเข้าหากันได้ดีพอ ก็อาจทำให้ลูกที่เกิดมามีปัญหาสุขภาพจิตได้ ซึ่งก็มีตัวอย่างให้เห็นกันเป็นประจำที่คู่สามีทะเลาะกันหรือไม่มีเวลาเลี้ยงลูก จนลูกต้องเสียคนไป…
  • มีโรคประจำตัวหรือไม่ ? โรคประจำตัวบางโรคของคุณแม่นั้นมีผลต่อลูกน้อยในครรภ์เป็นอย่างมาก บางโรคอาจเป็นอุปสรรคต่อการตั้งครรภ์เลยก็ว่าได้ เพราะขนาดคุณแม่ที่มีร่างกายแข็งแรงยังเกิดอันตรายจากการตั้งครรภ์และการคลอด ทางที่ดีคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่า สมควรจะตั้งครรภ์ได้หรือไม่ และถ้าตั้งครรภ์ได้จะต้องเตรียมตัวอย่างไร และระมัดระวังอะไรเป็นพิเศษ
  • เวลาส่วนตัวของพวกคุณจะหายไป จากที่เคยใช้ชีวิตอย่างมีอิสระในการนั่งเล่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ นอนหลับสักงีบ หรือทำงานอดิเรกต่าง ๆ ก็อาจแทบจะไม่มีเวลาเหลือเฟือเหมือนแต่ก่อน เพราะลูกต้องการการดูแลและเอาใจใส่จากพ่อแม่อย่างใกล้ชิดทั้งวันทั้งคืน ทำให้เวลาส่วนใหญ่จากกิจกรรมเหล่านี้ ต้องหมดลงไปกับการเลี้ยงดูลูกน้อย ซึ่งคุณอาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวอีกสักพักกว่าจะเคยชิน
  • เวลาแห่งการอดหลับอดนอน ต้องเข้าใจก่อนว่า เจ้าตัวเล็กนั้นมักตื่นและนอนไม่เป็นเวลาเหมือนผู้ใหญ่ คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องตื่นมาดู ทำให้เวลาที่คุณทั้งสองจะนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่มก็เป็นไปได้ยากเต็มทน (เด็กแรกเกิดจะใช้เวลานอนโดยเฉลี่ยประมาณวันละ 16 ชั่วโมง ซึ่งรวมไปถึงเวลาการให้นมลูกด้วย โดยลูกน้อยอาจใช้เวลาในการดูดนมก่อนนอนประมาณ 2-3 ชั่วโมง คุณแม่ควรใช้เวลาเหล่านี้เพื่อหาโอกาสพักผ่อนไปด้วยในตัว มิเช่นนั้นแล้วคงต้องอดหลับอดนอนจนต้องเสียสุขภาพอย่างแน่นอน
  • สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม คุณแม่จะต้องหลีกเลี่ยงสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ รวมไปถึงอาหารริมทางที่เต็มไปด้วยฝุ่น ควันรถ อุจจาระหมาแมวในบ้านหรือข้างถนน และสารเคมีภายในบ้าน เพราะหากต้องสูดดมติดต่อกันเป็นระยะเวลานานก็จะเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้

ต้องขอบอกเลยว่านี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง ที่ทุกๆ ท่านที่คิดจะมีเจ้าตัวน้อยต้องเตรียมตัวและเตรียมเสียสละครับ ซึ่งหากเตรียมตัวได้ไม่ดีพอ ก็จะเป็นที่ลำบากต่อตัวเอง ต่อครอบครัวและต่อตัวเด็กๆ ดังนั้นแล้ว ก่อนคิดที่จะมีก็ต้องคำนึงถึงอนาคตกันอย่างรอบคอบนะครับ สุดท้ายนี้ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆ ท่านที่พร้อมจะมีเจ้าตัวเล็กกันนะครับ