“เด็กฉลาด ชาติเจริญ” คงเป็นประโยคสุดคลาสสิกที่ใครหลายๆ คนในวัยทำงานต้องเคยได้ยินได้ฟังกันมาบ้างใช่มั้ยหล่ะครับ ซึ่งขอบอกเลยว่าประโยคเหล่านี้ไม่เกินจริงเลยหล่ะครับ เพราะในปัจจุบันในโลกที่มีการแข่งขันสูง เด็กๆ จะเป็นกำลังสำคัญในอนาคตที่จะคอยพัฒนาครอบครัวและประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไป วันนี้เราจึงอยากพาทุกๆ ท่านไปพบกับการเลี้ยงลูกอย่างไรให้เป็นเด็กฉลาด” กันครับ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาแล้วนั้น…เราไปดูกันดีกว่าครับ วิธีการเลี้ยงลูกที่ดีและสร้างเสริมให้พวกเค้ามีไหวพริบ ให้ความรัก เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ และไม่เพียงแต่ให้ความรักเท่านั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องแสดงออกอย่างเหมาะสมอีกด้วย บางคนรักลูกแต่ไม่กล้าพูด ไม่กล้าแสดงความรักออกมาให้ลูกเห็นเลย กระนั้น การยิ้มให้ การสัมผัส การกอด โอบไหล่ ล้วนแล้วแต่เป็นภาษากายที่บ่งบอกถึงความรักของพ่อแม่ต่อลูกได้เป็นอย่างดี แบ่งเวลา งานก็ต้องทำลูกก็ต้องมีเวลาให้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ต้องแบ่งเวลาเพื่อมาดูแลลูกน้อย เพราะตั้งแต่ 0 – 5 ขวบ เป็นช่วงที่ลูกน้อยจะมีการเรียนรู้และซึมซับสิ่งต่างๆ จากพ่อแม่มากที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นช่วงเวลาที่คุณพ่อและคุณแม่ต้องให้เวลาและใส่ใจดูแลลูกอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดี หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด เจ้าตัวน้อยมีภูมิต้านทางโรคต่ำ จึงควรหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด คนเยอะ ฝุ่นเยอะ เพราะถ้าเกิดมีเชื้อโรคอาจจะเจ็บป่วย และส่งผลกระทบที่รุนแรงกว่าในผู้ใหญ่ที่มีภูมิต้านทางโรคมากกว่า ความสนุกไม่เหมือนความตื่นเต้น ทารกและเด็กเล็กยังบอบบาง การเล่นกับเด็กด้วยการโยนลูกขึ้นลง แกว่งไปมา อาจสร้างความหวาดกลัวให้เด็ก และทำให้สมองที่บอบบางของเด็กได้รับแรงสั่นสะเทือน จนอาจเกิดผลกระทบหรือมีอาการบาดเจ็บในสมองได้ ใช้ “เหตุผล” แทนการใช้อารมณ์และความรุนแรง สำหรับเด็ก การใช้อารมณ์และความรุนแรง จะทำให้เกิดความบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ ยิ่งไปกว่านั้น วัยเด็กยังไม่สามารถแยกดีหรือร้ายได้อย่างผู้ใหญ่ เด็กจะจำพฤติกรรมเหล่านี้ไปใช้ต่อ และมองเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาของสังคม เทคโนโลยีไม่ได้ดีเสมอ วัยเด็กเป็นวัยที่ควรวิ่งเล่น เพื่อพัฒนาทักษะที่จำเป็น รวมถึงการบริหารกล้ามเนื้อต่างๆ การปล่อยให้อยู่กับสมาร์ตโฟน เล่นเกมจากแท็บเล็ต อาจส่งผลเสียต่อเด็กในอนาคตได้ มีผลการวิจัยว่า เด็กอายุ 0-7 ปี ไม่ควรได้รับแสงรังสีจากหน้าจอ LCD เพราะเป็นอันตรายต่อสายตาและสมอง…