แน่นอนอยู่แล้วว่าผัก ผลไม้นั้นมีประโยชน์กับร่างกยมากว่าขนมหวาน น้ำอัดลม ยิ่งผลไม้เมืองร้อนแล้วมีเยอะมากๆ สามารถหาทานได้ตลอดทั้งปี ทั้งยังมีสรรพคุณและประโยชน์ที่มากกว่าการให้วิตามินเสียอีก วันนี้มาดูกันดีกว่าว่า มีผลไม้อะไรบ้าง

10 ผลไม้มหัศจรรย์เมืองร้อน ที่เต็มไปด้วยประโยชน์เกินคาด

  1. สับปะรด มีเอนไซม์บรอมีเลน (Bromelain) ที่ช่วยย่อยโปรตีนได้ดี ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายตัวยาแอสไพริน จึงช่วยลดอาการอักเสบ ลดการจับตัวของเกล็ดเลือดได้ นอกจากนี้ ใครที่มีปัญหาเรื่องกระเพาะอาหาร หรือแน่นท้องหลังกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ให้ลองดื่มน้ำสับปะรด หรือกินสับปะรดตามหลังดู จะช่วยลดอาการแน่นท้องด้วย
  2. มังคุด นิยมทานเนื้อในที่มีสีขาว  อมเปรี้ยวอมหวาน  มีวิตามินซีสูงมาก เชื่อกันว่า ใครอยากหายอาการไข้  ต้องกินเนื้อมังคุด นอกจากจะมีสรรพคุณที่กล่าวข้างต้นแล้ว ยังเสริมภูมิคุ้มกันโรคลดความเสี่ยงโรคลักปิดลักเปิด และอีกประการสำคัญ ยังช่วยระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายได้ดีมาก มังคุด มีสารไลโคพีน ที่พบมากในมะเขือเทศ
  3. มะม่วง เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีรสชาติดี รับประทานได้ทั้งผลดิบและผลสุก ให้พลังงานสูง เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของโพแทสเซียม เส้นใยอาหาร และวิตามิน หลายคนเชื่อว่ามะม่วงอาจมีคุณสมบัติต้านเบาหวาน มะเร็ง การอักเสบ การติดเชื้อต่าง ๆ และต้านสารอนุมูลอิสระได้
  4. กล้วย นับเป็นผลไม้ที่อยู่คู่คนไทยมานาน เป็นทั้งอาหารเด็ก อาหารกลางวันนักเรียน ผลไม้ให้พลังงานนักกีฬา ของหวานของผู้ใหญ่ ไปจนถึงผลไม้นิ่มๆ เคี้ยวง่ายของผู้สูงอายุ กล้วยมีประโยชน์มากมาย เช่น ลดระดับคอเลสเตอรอล ควบคุมระดับความดันโลหิต แก้อาการท้องอืด เป็นต้น
  5. มะละกอ มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ และมีเส้นใยสูง จึงสามารถบรรเทาอาการท้องผูกได้ดี แถมยังลดความเสี่ยงการเป็นโรคริดสีดวงทวารอีกด้วย ดังนั้นสำหรับใครที่มีปัญหาท้องผูกเป็นประจำ การทานมะละกอก็จะช่วยแก้อาการท้องผูกได้อย่างดีเยี่ยม และสามารถปรับระบบการขับถ่ายให้เป็นปกติได้ดี
  6. น้อยหน่า เป็นผลไม้ที่มีไขมันต่ำ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน และรักษาสุขภาพ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยบำรุงผิวพรรณ เส้นผม และดวงตา วิตามินซีในน้อยหน่า จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  7. เงาะ ผลไม้รสหวานอร่อยกินเพลินแบบนี้ เปี่ยมไปด้วยวิตามินบี ธาตุเหล็ก แมงกานีส สามารถแก้อาการท้องร่วงชนิดรุนแรงได้ นอกจากนี้ยังมีวิตามินซีสูงจึงช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน เสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยรักษาอาการอักเสบในช่องปาก แต่ประโยชน์เหล่านี้ต้องเป็นเงาะสด ๆ เท่านั้นนะ เพราะถ้าเป็นเงาะกระป๋องในน้ำเชื่อมที่แม้จะอร่อยสุด ๆ แต่คุณจะได้รับความหวานจากน้ำตาลมากเกินความต้องการแทน
  8. ขนุน เป็นผลไม้ที่มีเนื้อหอมหวานอร่อยและยังนำมาทำเป็นอาหารได้หลากหลายเมนู แต่สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานควรหลีกเลี่ยงการรับประทานขนุนหรือรับประทานแต่น้อยเพราะมีรสหวาน นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรอีกด้วย ส่วนที่นำมาใช้เป็นยารักษาอาการต่าง ๆ ได้แก่ ใบ ยวง เมล็ด แก่น ส่าแห้งของขนุน มีสรรพคุณเช่น ช่วยบำรุงโลหิต ทำให้เลือดเย็น ขนุนหนังเป็นผลไม้ที่มีวิตามินอีสูงติด 10 อันดับแรกของผลไม้ และยังมีวิตามินซีสูงช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง เป็นต้น
  9. มะเฟือง มะเฟืองสดลูกขนาดกลางให้พลังงานเพียง 28 แคลอรี แถมยังให้โพแทสเซียม ไฟเบอร์ และวิตามินซีสูง ช่วยรักษาอาการเลือดออกตามไรฟัน เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง เป็นยาระบายแก้ท้องผูก ช่วยขับเสมหะ แก้ร้อนในได้ ส่วนใครชอบเครียดบ่อย ๆ นอนก็ไม่ค่อยหลับ มะเฟืองก็คือผลไม้ที่คุณต้องลิ้มลอง เพราะมีสารแอนไฮโดรบาราคอลช่วยคลายความเครียด บรรเทาอาการจิตฟุ้งซ่าน เพิ่มเติมด้วยสารอัลคาลอยด์ ที่ช่วยให้หลับสบายขึ้น
  10. ลำไย มีสารอาหารดี ๆ อย่างโปรตีน คาร์โบไฮเดรต แร่ธาตุ วิตามินอีกไม่น้อย จึงช่วยปราบโรคได้สารพัด โดยเฉพาะบรรเทาอาการปวด แก้ข้ออักเสบ ช่วยให้เส้นประสาทและกล้ามเนื้อทำงานได้อย่างเป็นปกติ

ยิ่งเมืองไทยบ้านเราสามารถหาผลไม้เหล่านี้ทานได้อย่างสบายๆ เมื่อเจอประโยชน์มากมายขนาดนี้ต้องไปหามาทานแล้วล่ะ แต่ควรบริโภคในปริมาณที่พอดีนะ