หลังจากมีการใช้ในยุโรปเมื่อราว 13 ปีที่แล้ว บุหรี่ไฟฟ้าก็กลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลก เนื่องจากคำกล่าวอ้างจากผู้ผลิตว่าปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่ปกติ แต่จากการศึกษาขององค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อปี 2016 พบว่ายังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะสรุปได้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยให้ผู้ใช้เลิกบุหรี่มวน ขณะที่องค์กรด้านสุขภาพและรัฐบาลหลายประเทศออกคำเตือนว่าบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่มวนส่งผลเสียต่อสุขภาพไม่ต่างกัน

ล่าสุดรัฐบาลอินเดียประกาศห้ามจำหน่าย รวมทั้งห้ามผลิต นำเข้า จัดเก็บ และโฆษณาบุหหรี่ไฟฟ้า ผู้ฝ่าฝืนต้องถูกจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 100,000 รูปี หรือทั้งจำทั้งปรับ หากทำผิดซ้ำต้องระสางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ 500,000 รูปี

การสั่งแบนของอินเดียเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่หลายประเทศกำลังตื่นตัวและเตรียมทบทวนการควบคุมของบุหรี่ไฟฟ้า รายงานของ Global State of Tobacco Harm Reduction ระบุว่าประเทศต่างๆ 39 ประเทศมีคำสั่งห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าหรือนิโคตินเหลว ขณะที่บางประเทศมีการควบคุม หรือให้ใช้อย่างถูกกฎหมาย อาทิ

ไทย แบนทุกกรณีตั้งแต่ปี 2014

สิงคโปร์ ห้ามนำเข้า จัดจำหน่าย แจกจ่าย หรือเสนอขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 เหรียญสิงคโปร์

ออสเตรีย กำหนดให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ การจำหน่ายต้องได้รับใบอนุญาต

เบลเยียม สามารถขายบุหรี่ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ที่บรรจุสารนิโคตินนอกร้านขายยาได้ หากบรรจุนิโคตินไม่เกิน 2 มิลลิลิตร หรือเฉพาะสารนิโคตินไม่เกิน 20 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร โดยห้ามจำหน่ายให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปี

บุหรี่ไฟฟ้า

สาธารณรัฐเช็ก ห้ามจำหน่ายให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี และอนุญาตให้จำหน่ายเฉพาะร้านที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายบุหรี่มวนเท่านั้น การใช้หรือโฆษณาไม่ผิดกฎหมาย ในทางพฤตินัยห้ามจำหน่ายในช่องทางออนไลน์เนื่องจากไม่สามารถระบุอายุผู้ซื้อได้ แต่ในทางปฏิบัติยังไม่มีการบังคับใช้ เนื่องจากมีร้านค้าออนไลน์จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก ทำให้ควบคุมได้ยาก

เดนมาร์ก ควบคุมการโฆษณา และกำหนดให้บุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารนิโคตินเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ แต่ต้องได้รับอนุญาตจากทางการก่อนจึงจะทำการตลาดและจำหน่ายได้ ทว่าจนถึงตอนนี้ทางการยังไม่เคยออกใบอนุญาตดังกล่าว

ฟินแลนด์ การขาย บุหรี่ไฟฟ้า ที่มีสารนิโคตินเหลวถือว่าผิดกฎหมาย แต่หากไม่มีสารนิโคตินเหลวสามารถจำหน่ายได้ตราบใดที่ไม่มีภาพและราคาบนบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ ยังผ่อนผันให้ซื้อบุหรี่ไฟฟ้าบรรจุนิโคตินเหลวจากต่างประเทศเพื่อใช้ส่วนตัวได้ โดยต้องมีนิโคตินไม่เกิน 10 มิลลิกรัม และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าต้องมีนิโคตินไม่เกิน 0.42 กรัมต่อขวด หากเกินกว่านั้นต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ในฟินแลนด์

ฝรั่งเศส ห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์ใดๆ ทั้งที่มีและไม่มีนิโคตินให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี รวมทั้งยังกำหนดสถานที่ห้ามสูบ โดยผู้ฝ่าฝืนต้องถูกปรับตั้งแต่ 150 ยูโรขึ้นไป ส่วนเจ้าของสถานที่ที่เป็นพื้นที่ห้ามสูบและผู้ที่ไม่ติดป้ายห้ามสูบปรับ 450 ยูโร

เนเธอร์แลนด์ ห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าแก่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำกัดการจำหน่ายน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าไม่เกินขวดละ 10 มิลลิลิตร มีนิโคตินได้ไม่เกิน 20 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร